ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) หรือที่รู้จักกันในชื่อ แอสไพริน (Aspirin) เป็นยาแก้ปวดและลดไข้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยมักใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดหัว ไข้ และอาการปวดอื่นๆ ยาพาราเซตามอลเป็นยาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเมื่อใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
ยาพาราเซตามอล (Paracetamol)
![](https://cdn.statically.io/img/speedphoto.co/wp-content/uploads/2023/12/image-13.png?quality=100&f=auto)
เป็นยาแก้ปวดและลดไข้ที่นิยมใช้มากที่สุดชนิดหนึ่งในโลก โดยมีวางจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้ยาพาราเซตามอลเป็นหนึ่งในยาที่จำเป็นสำหรับระบบสุขภาพขั้นพื้นฐาน
ยาพาราเซตามอลมีฤทธิ์ลดไข้และแก้ปวดได้ดี โดยออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไซโคลออกซิเจเนส (Cyclooxygenase; COX) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่จำเป็นในการสังเคราะห์สารพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและการรับรู้ความเจ็บปวด ยาพาราเซตามอลจึงสามารถลดไข้และบรรเทาอาการปวดได้
ยาพาราเซตามอลมีรูปแบบไหนบ้าง
![](https://cdn.statically.io/img/speedphoto.co/wp-content/uploads/2023/12/image-12.png?quality=100&f=auto)
ยาพาราเซตามอลมีจำหน่ายในรูปแบบต่างๆ เช่น เม็ด ยาแคปซูล ยาน้ำเชื่อม และยาเหน็บทวาร โดยขนาดยาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับอายุและน้ำหนักของผู้ป่วย
โดยทั่วไป ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่คือ 500-1,000 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง ไม่ควรใช้ยาพาราเซตามอลเกิน 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน
ยาพาราเซตามอลโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยเมื่อใช้ในขนาดที่แนะนำ อย่างไรก็ตาม อาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง และผื่นผิวหนัง ในบางรายอาจเกิดอาการแพ้รุนแรงได้ หากใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อตับได้
ยาพาราเซตามอลแก้ปวดอะไรได้บ้าง
![](https://cdn.statically.io/img/speedphoto.co/wp-content/uploads/2023/12/image-11.png?quality=100&f=auto)
ยาพาราเซตามอลสามารถใช้บรรเทาอาการปวดได้หลายชนิด เช่น ปวดหัว ปวดฟัน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ปวดประจำเดือน และปวดหลัง อย่างไรก็ตาม ยาพาราเซตามอลไม่ได้มีฤทธิ์ลดการอักเสบ จึงไม่เหมาะสำหรับใช้รักษาอาการปวดที่เกิดจากการอักเสบ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis) หรือโรคลำไส้อักเสบ (Inflammatory bowel disease)
โรคประจำตัวที่ควรปรึกษาเภสัชก่อนใช้ยาทุกครั้ง
![](https://cdn.statically.io/img/speedphoto.co/wp-content/uploads/2023/12/image-10.png?quality=100&f=auto)
ยาพาราเซตามอลเป็นยาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเมื่อใช้ในขนาดที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาพาราเซตามอลหากคุณมีภาวะต่อไปนี้
- โรคตับ
- โรคไต
- โรคหัวใจ
- โรคเบาหวาน
- โรคโลหิตจาง
- โรคหอบหืด
- โรคต้อหิน
- โรคต่อมลูกหมากโต
- โรคไทรอยด์
- โรคจิตเภท
- โรคลมชัก
- โรคพาร์กินสัน
- โรคอัลไซเมอร์
- โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia gravis)
- โรค Guillain-Barré syndrome
- โรค porphyria
- โรคแพ้ยาพาราเซตามอล
ยาพาราเซตามอลอาจมีปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ได้ เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาลดความดันโลหิต ยาลดไขมันในเลือด ยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ยารักษาโรคเกาต์ ยารักษาโรคเบาหวาน ยารักษาโรคซึมเศร้า และยาต้านไวรัสบางชนิด
ยาพาราเซตามอลเป็นยาแก้ปวดและลดไข้ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยเมื่อใช้ในขนาดที่แนะนำ อย่างไรก็ตาม ควรใช้ยาพาราเซตามอลด้วยความระมัดระวัง และไม่ควรใช้เกินขนาดที่แนะนำ หากมีข้อสงสัยหรือเกิดอาการข้างเคียง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร